Collections
สวนแก้ว หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ
พื้นที่บริเวณสวนแก้วนี้มหาวิทยาลัยศิลปากรได้จัดทำเป็น "พิพิธภัณฑ์ศิลปะกลางแจ้ง" ตั้งแต่ พ.ศ.2532 ด้วยจุดประสงค์เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมและบรรยากาศศิลปะอันงดงามในบริเวณมหาวิทยาลัยแห่งศิลปะนี้ ซึ่งผลงานประติมากรรมที่ติดตั้งอยู่บริเวณสวนแก้วนี้ล้วนเป็นผลงานศิลปกรรมของศิลปินชั้นครูคนสำคัญของไทย
จากการปรับปรุงพื้นที่มหาวิทยาลัยศิลปากรวังท่าพระ จึงมีความจำเป็นต้องย้ายประติมากรรมทั้งหมดในบริเวณสวนแก้วไปเก็บรักษาไว้ชั่วคราวเพื่อทำการปรับปรุงพื้นที่ นอกจากการเก็บรักษา ติดตั้ง และจัดทำป้ายข้อมูลประกอบผลงานทั้งหมดแล้ว หอศิลป์ยังได้ดำเนินการซ่อมแซมผลงานประติมากรรม “กระโดดเชือก” โดย มีเซียม ยิบอินซอย ซึ่งมีขั้นตอนในการซ่อมแซมดังต่อไปนี้ (ขอขอบคุณข้อมูลจาก Thamthai Sculpture Studio)
“กระโดดเชือก” โดย มีเซียม ยิบอินซอย เป็นประติมากรรมสำริดผสมกับทองเหลือง เมื่อตรวจสอบสภาพเบื้องต้นแล้วพบว่ามีรอยเชื่อมด้วยทองเหลืองอยู่ก่อนแล้วในบางจุด และในครั้งนี้จะทำการซ่อมแซมเพิ่มเติมเพื่อเสริมความแข็งแรงและสวยงามทั้งหมด 3 จุดด้วยกัน ได้แก่
1. เชือกบริเวณที่มีรอยหัก 2. เชือกด้านล่างที่นำไปดัดเพื่อให้ยึดติดกับฐานประติมากรรม 3. เชือกที่ติดกับมือด้านขวา เกิดรอยร้าว หลังจากทำการเชื่อมทั้งสองจุดข้างต้น |
การซ่อมแซมจะเริ่มจากการทำความสะอาดผิวงานประติมากรรมด้วยวิธีการเปิดผิวงานบริเวณที่จะซ่อม เช็ดฝุ่นและใช้แปรงลวดขัดให้สะอาด เชื่อมอาร์กอนเติมเนื้อด้วยโลหะสำริด ขัดแต่งผิวให้ใกล้เคียงของเดิม และขัดลูกลวดทองเหลือง ตามด้วยการเตรียมผิวงานก่อนทำสี โดยการเป่าความร้อนให้ทั่วทั้งงานด้วยอุณหภูมิประมาณ 100 องศาเซลเซียส
เมื่อเกิดความอุ่นทั่วทั้งชิ้นงานแล้วจึงราดด้วยทินเนอร์เพื่อล้างคราบสกปรกในเนื้อโลหะ จากนั้นใช้ฟองน้ำชุบผงซักฟอก ขัดถูเบาๆอีกครั้ง เพื่อล้างคราบมันที่อาจเกิดขึ้น แล้วจึงทำความสะอาดด้วยน้ำและเป่าลมให้แห้งเพื่อเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนทำสีโลหะต่อไป |
การทำสีโลหะครั้งนี้ใช้วิธีการ Patina หรือการเร่งการเกิดออกไซด์ของโลหะด้วยความร้อนและสารเคมี ซึ่งใช้อุณหภูมิ 150 - 200 องศาเซลเซียสโดยประมาณ และใช้สารเคมี 2 ชนิดคือ
- Potassium Sulphide (ให้สีดำ เทา) - Copper (ll) Nitrate เกรด AR (ให้สีเขียว) โดยจะลง Potassium Sulphide ก่อน แล้วตามด้วย Copper (ll) Nitrate เมื่อได้สีที่ใกล้เคียงเดิมแล้ว จะราดน้ำบริเวณที่ทำสี และเป่าลมเพื่อลดอุณหภูมิลง และตรวจสอบสีโลหะอีกครั้ง เพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจขั้นตอนนี้มากขึ้น เราขอแนะนำให้ชมวิดีโอนี้ไปด้วยค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=DhDDOXhCml8 |
ขั้นตอนสุดท้ายคือการเคลือบผิวโลหะเพื่อรักษาเนื้อสี Patina ที่ทำไว้และป้องกันตัวโลหะจากสภาพอากาศ เริ่มด้วยการอุ่นชิ้นงานประติมากรรมอีกครั้ง ด้วยอุณหภูมิประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส เพื่อไล่ความชื้นบนผิวงาน จากนั้นทาแว็กซ์เคลือบผิวด้วยแปรงให้ทั่วทั้งชิ้นงาน ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วจึงขัดชิ้นงานทั้งหมดอีกครั้ง จนกลายมาเป็นผลงานประติมากรรมที่ติดตั้งอยู่ ณ สวนแก้วอย่างสวยงามอย่างที่เราเห็นตอนนี้ค่ะ
. สำหรับใครที่คิดถึงบรรยากาศสวนแก้วสามารถแวะไปนั่งพักผ่อนหย่อนใจ พร้อมชมผลงานประติมากรรมที่หอศิลป์ได้จัดทำป้ายข้อมูลของผลงานแต่ละชิ้นให้เรารู้จักผลงานในสวนแก้วกันมากยิ่งขึ้นค่ะ |